ถ้าสิ่งที่เราได้เรียนรู้มาว่า สิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ เปรียบเหมือนใบไม้ทั้งป่า แต่สิ่งที่ท่านนำมาสอนเท่ากับใบไม้กำมือเดียว คือท่านสอนเรื่องทุกข์กับดับทุกข์ ทุกข์ในที่นี้คือ ทุกข์อุปาทาน(ตัวกู-ของกู) ซึ่งเป็นทุกข์ทางใจ ส่วนทุกข์ทางกายก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เช่นปวดหัวตัวร้อนก็ต้องไปหาหมอรักษา เป้าหมายของชาวพุทธ คือ ทำ พระนิพพานให้แจ้ง ถ้านิพพานหมายถึงความดับเย็น แห่งจิต ทำอย่างไรเล่าจึงจะไปถึง
"ภิกษุ ทั้งหลาย หนทางนี้ เป็นหนทางไปทางเดียว เพื่อความบริสุทธิ์หมดจดของสัตว์ทั้งหลาย -เพื่อการก้าวล่วงเสียซึ่งความโศกและความร่ำไรรำพัน-เพื่อความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งทุกข์และโทมนัส -เพื่อบรรลุธรรมอันสัตว์พึงรู้-เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง หนทางนี้คือ สติปัฏฐานสี่ นี่คือสิ่งที่เรียกว่าทฤษฎี หรือปริยัติที่ว่าด้วยการดับทุกข์
โครงสร้างแห่งมหาสติปัฎฐาน
เพื่อกำหนดเนื้อความได้ชัดเจนแม่นยำ ควรทราบโครงของบาลีนี้เสียก่อนอย่างกว้างๆ ท่านแบ่งเป็นสี่หัวข้อใหญ่ แล้วแบ่งย่อยออกได้ดังนี้คือ
1 กายานุปัสสนาสติปัฎฐาน พิจารณาโดยวิธีต่างๆคือ
1 อานาปาน รู้กายคือลมหายใจ มี 4 อย่าง
2 อิริยาบท รู้กายคืออิริยาบท มี4 อย่าง
3 สัมปชัญญะ รู้กายคือการเคลื่อนไหว มี 7 อย่าง
4 ปฎิกูล รู้ของไม่สะอาดในกาย มี 31 อย่าง
5 ธาตุ รู้กายประกอบด้วยธาตุ มี 4 อย่าง
6 นวสีวถิกา รู้กายเปรียบด้วยซากศพ มี 9 อย่าง
2 เวทนานุปัสสนาสตืปัฎฐาน พิจารณาเวทนาทั้งสามโดยอาการต่างๆ มีสุข มีทุกข์ มีเจืออามิส หรือไม่มีเจืออามิสเป็นต้น มี 9 อย่าง
3 จิตตานุปัสสนาสติปัฎฐาน พิจารณาจิตที่มีภาวะต่างๆกันมีเจือด้วย กิเลสหรือไม่ เป็นต้น มี 16 อย่าง
4 ธัมมานุปัสสนาสติปัฎฐาน พิจารณาธรรมทั้งหลายเป็นข้อๆคือ
1 ว่าด้วยนิวรณ์ มี 5 อย่าง
2 ว่าด้วยอุปาทานขันธ์ มี 5 อย่าง
3 ว่าด้วยอายตนะภายในภายนอก มี 6 อย่าง
4 ว่าด้วยโพชฌงค์ มี 7 อย่าง
5 ว่าด้วย อริยสัจ มี 4 อย่าง คือ
ก. ทุกข์ 12 ชนิด
ข. สมุหทัย 10 หมวด
ค. นิโรธ 10 หมวด
ง. มรรคมีองค์ 8 องค์
เมื่อได้ทฤษฎี หรือปริยัติแล้ว สิ่งที่จะต้องทำต่อไปก็คือการปฎิบัติ อย่างต่อเนื่อง โดยใช้หลักอิทธิบาท 4 คือ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา จนกระทั่งได้รับผลคือปฎิเวธ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน อย่าลืมว่าเป้าหมายก็คือ "ทำพระนิพพานให้แจ้ง" ส่วนการจะไปปฎิบัติ กับครูบาอาจารย์สำนักไหนก็ลองตรวจสอบดูว่าสอดคล้องกับมหาสติปัฎฐานสูตรหรือไม่ มิฉะนั้นจะกลายเป็นสวนทางนิพพานไป อันเป็นทางมิใช่ทาง ส่วนรายละเอียด หาอ่านเอาจาก มหาสติปัฎฐานสูตร พุทธทาสภิกขุ แปล หรือไม่ก็หาอ่านเอาจากบทสวดมนต์แปลก็ได้ ตามแต่สะดวก ในส่วนของโครงสร้าง ลอกเอามจากที่ ท่านพุทธทาสท่านแปลไว้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น